![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1HI5XV9xQ_eBItFH6ds7I3VP6IfACsSsaFnLoppLzJDTaZn8sxgyJI1CJW8GwL8Uhdy8sFrohAcnZxMuMvjYg2DL0NHEAQi0zTMN_cZWIEyMhyB5bq9J2nj8EMzZKg_0ymniTCcChf5m6JhVdDtKOP_Yd_KGACHx1nAlnMpWXGuLSoQmjRVbo2zl-9Do/w737-h387/1.jpg)
เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ในฐานะ หัวหน้า ศปอส.ตร.ชุด 4 เปิดเผยว่า ติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 17 คน จากทั้งหมด 23 คน ในจำนวนดังกล่าวเป็นตำรวจและจับกุมครบแล้ว 8 นาย ยังขาดพลเรือนอีก 6 คน ส่วนขั้นตอนจากนี้จะติดตามจับกุมกลุ่มที่เหลือ โดยพนักงานสอบสวนจะทำบันทึกจับกุมแล้วคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล
พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า สำหรับการประกันขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ตอนนี้ยังไม่รับรายงานคำให้การของผู้ต้องหา แต่ยืนยันว่าชุดปฏิบัติการมีหลักฐานดำเนินคดี ซึ่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมานานกว่า 2 เดือน จนทราบแหล่งที่พักอาศัยของผู้ต้องหา
ยอมรับว่ามีการขอหมายค้นจากศาลตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านรวม 4-5 หลัง จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย และหลังหนึ่งที่ตรวจค้น ชื่อผู้ครอบครองไม่ใช่รอง ผบ.ตร. ยังต้องรอรายงานผลการตรวจค้นว่าได้พยานหลักฐานใดเพิ่มเติม จากนี้หากพบพยานหลักฐานจะขยายผลสืบสวนจับกุมต่อไป พล.ต.ท.ไตรรงค์ระบุ
พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณี รอง ผบ.ตร.ตั้งทีมกฎหมายเพื่อเตรียมดำเนินคดีกลับต่อชุดจับกุม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนและรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอจนนำไปสู่การออกหมายจับ